ร้อยปีแห่งความว่างเปล่า คือช่วงเวลาหนึ่งศตวรรษที่เลือนหายไปจากประวัติศาสตร์ การศึกษาประวัติศาสตร์ในช่วงนี้ถือเป็นเรื่องต้องห้ามโดยคำสั่งของรัฐบาลโลก ช่วงเวลานี้อยู่ระหว่าง 900 ถึง 800 ปีก่อนเหตุการณ์ในปัจจุบัน
สาเหตุที่เรียกว่าร้อยปีแห่งความว่างเปล่า เนื่องจากไม่มีข้อมูลใดๆทั้งสิ้นจากประวัติศาสตร์ช่วงดังกล่าว มีเพียงศิลาโพเนกลีฟเท่านั้นที่หลงเหลือมาจากยุคดังกล่าว ซึ่งศิลาก็ถูกจารึกด้วยภาษาโบราณที่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถอ่านมันได้ แม้ผู้คนจะรับรู้ว่ามีช่วงเวลาที่ประวัติศาสตร์เลือนหายไป
ความจริงของประวัติศาสตร์โลกเหมือนจะซ่อนงำความลับที่เป็นอันตรายไว้ ผู้ที่รับรู้ถึงความลับนี้ก็ยังลังเลที่จะเอ่ยถึง โกล ดี. โรเจอร์ ก็ไม่ได้เปิดเผยถึงสิ่งที่ซ่อนอยู่ในลาฟเทล รวมถึงโคสึกิ โอเด้ง ที่ก็ไม่ได้บอกความลับนี้ให้กับผู้ติดตามเพราะมองว่าเป็นภาระ ซิลเวอร์ เรย์ลี่ เคยเสนอที่จะเล่าถึงช่วงเวลาที่หายไปให้กับนิโคล โรบินฟัง แต่เตือนเธอว่าสิ่งที่เธอเป็นอยู่ตอนนั้น เธอไม่สามารถทำอะไรกับเรื่องนี้ได้ นอกจากนี้การรับรู้ถึงความจริงที่เกิดขึ้นในศตวรรษแห่งความว่างเปล่า ถือเป็นโทษประหารชีวิตในสายตาของรัฐบาลโลก แม้แต่ประชาชาติก็จะถูกทำลายและถูกลบออก หากใครสักคนนึงพยายามที่จะศึกษาศตวรรษแห่งความว่างเปล่า รัฐบาลโลกพร้อมที่จะฆ่าคนบริสุทธิ์และกำจัดประเทศที่พยามยามจะศึกษา
เหตุการณ์สำคัญในช่วงร้อยปีแห่งความว่างเปล่าที่นักโบราณคดีจากเกาะโอฮาราได้ศึกษาและรับรู้ก็คือ มีสงครามครั้งใหญ่เกิดขึ้นซึ่งได้ทำให้มหาอาณาจักรหนึ่งล่มสลายลงไป และเป็นช่วงเวลาที่รัฐบาลโลกถูกสถาปนาขึ้น
มหาสงคราม[]
เหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดในช่วงศตวรรษแห่งความว่างเปล่า สิ้นสุดลงราวปี ค.ศ. 722 ด้วยการล่มสลายของแชนโดรา
ความเชื่อมโยงระหว่างเกาะแห่งท้องฟ้าและศตวรรษที่หายไป คือโพเนกลีฟที่ถูกทิ้งไว้
แชนโดร่าหลังสงคราม
จอยบอย[]
เมื่อจอยบอยมาถึงยังเกาะมนุษย์เงือก และสร้างเรือโนอาห์ขึ้น เขาหมายจะใช้โพไซดอนเพื่อลากเรือโนอาห์ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างที่ทำให้เขาไม่ได้ทำตามสัญญา เขาจึงได้สลักคำขอโทษลงในโพเนกลิฟในป่าทะเล และให้ดูแลเรือโนอาห์ต่อไปจนกว่าจะถึงเวลาที่กำหนด
จอยบอยยังทิ้งสิ่งล้ำค่าที่ไม่อาจจินตนาการได้ไว้ที่เกาะสุดท้าย และโลกจะต้องตะลึงเมือถูกค้นพบ ตามคำกล่าวอ้างของหนวดขาว นอกจากนี้เมื่อโคสึกิ โอเด้งที่ได้รู้ถึงเหตุการณ์ในศตวรรษแห่งความว่างเปล่า เขาก็ตัดสินใจว่าจะเปิดประเทศวาโนะก่อนที่จอยบอยจะกลับมา
อาณาจักรทอนทัตตา[]
ก่อนช่วงร้อยปีแห่งความว่างเปล่า เหล่าคนแคระในอาณาจักรทอนทัตตาต้องทนทุกข์ทรมานจากผู้ปกครองของเดรสโรซา ซึ่งก็คือตระกูลดองกิโฮเต้ อย่างไรก็ตามพวกคนแคระได้ลืมเหตุการณ์ในช่วงดังกล่าวไปแล้ว
เผ่าลูนาเรีย[]
เผ่าลูนาเรียเคยอาศัยอยู่บนเรดไลน์ และเคยถูกมองว่าเป็นเทพเจ้ามานานก่อนที่จะมีแมรี่ จอส อย่างไรก็ตามในช่วงศตวรรษที่หายไป พวกเขาได้ถูกไล่ล่า และหลังจากนั้นมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่สาเหตุที่ถูกล้างเผ่าพันธ์ุยังไม่ทราบเเน่ชัด
ประเทศวาโนะ[]
ประเทศวาโนะน่าจะมีบทบาทสำคัญในศตวรรษแห่งความว่างเปล่า ตระกูลโคสึกิมีส่วนเกี่ยวข้องในการสร้างโพเนกรีฟ และพลูตัน หนึ่งในอาวุธโบราณซึ่งปัจจุบันถูกซ่อนไว้ในประเทศ
ในตอนที่โคสึกิ โอเด้ง ได้ไปยังเกาะลาฟเทล เขาได้รู้ว่าประเทศนี้เคยเชื่อมโยงกับส่วนอื่นๆของโลก แต่ได้ทำการปิดประเทศเพื่อป้องกันจากศัตรู จึงได้สร้างกำแพงขนาดใหญ่ และตามคำบอกเล่าของโอเด้ง โลกจำเป็นต้องเชื่องต่อกับประเทศวาโนะอีกครั้ง ดังนั้นจะต้องเปิดประเทศก่อนที่จอยบอยจะกลับมา ซึ่งหมายถึงการปล่อยพลูตันออกมาอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามผู้คนในแคว้นวาโนะก็ลืมเลือนถึงสาเหตุของการแยกประเทศออกมาก และไม่ได้รู้ถึงศตวรรษที่แห่งความว่างเปล่า แม้ว่าจะอยู่ในประเทศที่รัฐบาลโลกไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายห้ามศึกษาประวัติศาสตร์ได้ แต่คนส่วนใหญ่ก็ไม่ได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับโลกภายนอกตั้งแต่แรก เพราะการออกนอกประเทศถือว่าเป็นอาชญากรรม